
อากิโอะชายหนุ่มวัย
28 ปี อาศัยอยู่บนเกาะๆหนึ่งของโอกินาว่า
โดยญาติคนเดียวที่มีอยู่ก็คือคุณยายที่ไม่ใช่ยายแท้ๆกับสุนัขอีกตัวที่ชื่อ คาฟู
แม่ของอากิโอะคือความทรงจำที่มีความสุขที่ฝังใจของเขาในวัยเด็ก
ครั้งหนึ่งเขาเคยมอบของขวัญให้แม่เป็นกิ่งไม้เล็กๆที่เขาบังเอิญได้จากการช่วยรักแรกของเขาแล้วเอามามันมาทำเป็นสร้อยคอก่อนมอบให้แม่
แต่วันหนึ่งแม่ก็จากเขาไปพร้อมกับของขวัญของเขา
รวมทั้งรักแรกของเขากับเด็กสาวท้องถิ่นที่ไปแต่งงานกับชายหนุ่มบนแผ่นดินใหญ่
หลังจากนั้นอากิโอะก็ไม่เคยคิดที่จะรักใครอีกเลยรวมทั้งเฝ้ารอคอยแม่ที่เขารักกลับมา
จนวันหนึ่งอากิโอะไปที่ศาลเจ้ากับเพื่อนสนิทอีก 2 คนคือชุนอิจิและวาตาริ แล้วถูกเพื่อนบังคับให้เขียนคำขอพรบนแผ่นไม้ที่ศาลเจ้า
อากิโอะ คิดอะไรไม่ออกและบางทีสิ่งที่เขาเขียนอาจจะไม่ได้มาจากส่วนลึก
แต่มันก็เป็นพรหมลิขิตที่นำบางสิ่งบางอย่างมาหาเขาในเวลาต่อมา
“ แต่งงานกับผมเถอะ
แล้วผมจะทำให้คุณมีความสุข”


ทุกวันที่เขาใช้ชีวิตบนเกาะด้วยการเปิดร้านขายของแบบไม่เป็นเวลาแล้วแต่อยากขายเมื่อไรก็เปิด
ปล่อยชีวิตไปอย่างเรื่อยเปื่อย โดยมีคุณยายคอยดูแลทำอาหารให้ทาน
วันหนึ่งมีจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงแล้วบอกว่านี่คือจดหมายฉบับแรกที่เขียนถึงเขา
พร้อมกับใจความสำคัญว่า เธอได้พบเจอแผ่นไม้ของเขาที่ศาลเจ้า
“ถ้าคุณพูดจริง
ฉันจะขอเป็นเจ้าสาวของคุณเอง”
ซาจิ

หญิงสาวลงท้ายจดหมายที่ชื่อว่าซาจิ
เริ่มแรกที่อ่านอากิโอะก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เพราะคงมีเพื่อนคนไหนแกล้งล้อเขาเล่นแน่ แต่ในส่วนที่แอบหวังอากิโอะก็เตรียมพร้อมโดยการโกนหนวดโกนเคราหาเสื้อผ้าใหม่มาใส่
วันหนึ่งขณะที่เขาพาเจ้าคาฟูมาเดินเล่นริมหาด เขาก็พบเจอสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ริมทะเลมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลายขอบทะเล
เจ้าคาฟูวิ่งเข้าไปเห่าหญิงสาวคนนั้นเหมือนทักทายแต่อาิิกิโอะด้วยความอายก็รีบพาเจ้าคาฟูกลับแล้วกล่าวขอโทษหญิงสาว
ขณะที่เขากำลังหันหลังและเร่งรีบด้วยความเขิน หญิงสาวกล่าวคำทักทาย
หญิงสาว: คุณคะ
อากิโอะ: ครับ
หญิงสาว: ที่นี่หมู่บ้าน......
อากิโอะ: ใช่ครับที่นี่หมู่บ้าน.....
หญิงสาว: โทษนะคะ
ขอถามอีกคำถาม
อากิโอะ: ครับ
หญิงสาว: รู้จักชายที่ชื่อ
อากิโอะไหมคะ
อากิโอะ: เออ...คือผมเองครับ
หญิงสาว: ฉันซาจิเองค่ะ
_________________________________

การพบเจอกันที่ริมทะเลของชายหนุ่มและหญิงสาว
เมื่อ
ทำความรู้จักกันหญิงสาวปริศนาที่ชื่อซาจิก็เอาแต่หัวเราะ
แต่ในเสียงหัวเราะก็ซ่อนเร้นความลับบางอย่างไว้รวมทั้งความขมขื่นของตัวเธอ
ด้วย
และแท้จริงนอกจากความลึกลับดังกล่าวซาจิยังนำกล่องหนึ่งซึ่งเธอนำติดตัว
เพื่อนำกลับมาคืนเจ้าของที่แท้จริงก็คืออากิโอะด้วย
แต่เธอไม่ได้บอกอากิโอะในเรื่องนั้น
ซาจิ: คาฟูหมายถึงอะไร
อากิโอะ: คาฟูสำหรับชาวท้องถิ่นที่นี่มี
2 ความหมาย แรกก็คือ “ข่าวดี”
ส่วนความหมายที่สองก็คือ “ความสุข”
ท่ามกลางความมืดมิด
ซาจิที่อยู่ชั้นบนของบ้านริมทะเลมองดูบนท้องฟ้าที่มีพระจันทร์เปล่งประกาย
ขณะที่อากิโอะ นั่งอยู่หน้าบ้านริมถนน ทั้งคู่เอ่ยปากสนทนา
ซาจิ: แต่ก่อนรู้สึกเศร้าเวลามองพระจันทร์
แล้วความสุขของอากิโอะคืออะไร
อากิโอะ: ความสุขของผมก็ืคือการที่เห็นคนรอบข้างมีความสุข
นั่นคือความสุขของผม
ซาจิ: รู้แล้วล่ะ
ตอนนี้ฉันมองพระจันทร์ด้วยความสุข
_________________________________

การ
มาของหญิงสาวที่ลึกลับนามว่าซาจิหรือที่ใครต่างเรียกอย่างคุ้นเคยว่าซัทจัง
ทำให้ชีวิตที่เคยเรื่อยเปื่อยของอากิโอะกัลบมามีชีวิตชีวา
และซาจิได้นำกรรไกรตัดผมมาตัดผมให้กับอากิอะที่ริมหาดเหมือนกับความรักที่
หายไปได้กลับมาอีกครั้งเหมือนวัยเด็กที่แม่จะตัดผมของเขาอยู่เสมอ
การตัดผมที่ยาวของอากิโอะทิ้งไปก็เหมือนการละทิ้งอดีตที่ขมขื่นออกไป
เหมือนป้ายที่ติดหน้าร้านได้เปลี่ยนจากขายบางเวลามาเป็นขายทุกเวลา
งานที่เคยกองรุงรังก็ถูกจัดการ
แม้แต่ตัวของอากิโอะเองก็เปลี่ยนตัวเองจนกลายเป็นอีกคนจนเพื่อนอดแปลกใจไม่
ได้กับสิ่งที่เปลี่ยนไปจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าสาวลึกลับจากไปจะทำร้ายอากิโอะ
มากน้อยแค่ไหน
_________________________________

ชุน
อิจิ เพื่อนสนิทของอากิโอะ
อาจจะเป็นคนเดียวที่ไปทำงานในแผ่นดินใหญ่เมื่อกลับมาที่เกาะก็มาพร้อมกับ
โครงการพัฒนาเกาะโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรีสอร์ทและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่อง
เที่ยว
โดยกว้านซื้อที่จากชาวท้องถิ่นที่มีพื้นเพเป็นเกษตรกร
และพื้นดินที่ชุนอิจิลำบากในการซื้อก็คือของเพื่อนของเขาเองคือวาตารุและอา
กิโอะ
จนหัวหน้าของชุนอิจิต้องมาที่เกาะเองเพื่อเป้าหมายการซื้อที่ดินทั้งหมดให้
ลุล่วงไปได้
และหั
วหน้าของชุนอิจิก็บอกเทคนิคหรือกลยุทธ์ที่จะทำให้ชาวบ้านขายที่ดินให้บริษัท
ได้คือ
ให้ดูว่าชาวบ้านต้องการอะไรก็หามาล่อพวกเขา
ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการสุขภาพที่ดีก็ล่อด้วยการมีโรงพยาบาลท้องถิ่น
สำหรับอากิโอะคนที่ไม่ต้องการอะไรในชีวิต
หัวหน้าของชุนอิจิบอกทิ้งท้ายให้เป็นเลศนัยว่า ก็หาภรรยาให้เขาสิ

ขณะ
ที่คุณยายของอากิโอะป่วย บนเกาะกำลังมีพิธีโอบง
อากิโอะกับซาจิก็มาจุดเทียนวางไว้หน้าบ้านท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืน
เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านที่กำลังมาจุดเทียนวางไว้หน้าบ้านเช่นกัน
ขณะที่มีสียงพิธีตามประเพณีโบราณดังมาแต่ไกล
ซาจิ: ทำไมต้องจุดเทียนวางไว้หน้าบ้านด้วย
อากิโอะ: เพราะคนที่นี่เชื่อว่าการจุดไฟไว้ที่หน้าบ้านจะนำพาบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปกลับบ้านมาเยี่ยมลูกหลาน
และ
ในค่ำคืนนั้นเองก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะจุดเทียน
อากิโอะได้ยินความลับเรื่องหนึ่งของซาจิจากเพื่อน
และหลังจากนั้นอากิโอะก็ต้องยอมทำร้ายตัวเองและคนที่เขารักก็คือซาจิโดยการ
ขอร้องให้ซาจิออกไปจากบ้านเพราะเขาจะแต่งงานกับหญิงคนหนึ่งแต่เรื่องการแต่ง
งานเป็นแค่ข้ออ้าง
แต่การจากลาของซาจิกับเป็นความเจ็บปวดที่ทั้งคู่ต้องเผชิญ
_________________________________

Kafoo waiting for Happiness เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายประกวดเรื่องโรแมนติค
และให้บรรยากาศเหมือนภาพยนตร์รักญี่ปุ่นหลายๆเรื่อง เช่น Be with You หรือ Love
Letter ที่ดำเนินเรื่องเรื่อยๆในแวดล้อมของชนบทหรือท้อง
ถิ่น
เรื่องราวที่ผูกง่ายๆแต่ซ่อนปลายที่คาดไม่ถึง
ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงวัฒนรรม
เศรษฐกิจและวิถีชีวิตของท้องถิ่นได้อย่างสวยงาม
ดินแดนบนเกาะที่มีชีวิตเรียบง่ายคงไม่ต่างจากประเทศอื่นๆในเอเชีย
พึ่งพาอาศัยกันซึ่งกันและกัน
และมีพิธีหรือประเพณีที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาชาวบ้าน
ในเรื่องพิธีโอบงของชาวเกาะที่จุดไฟหน้าบ้านเพื่อให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษกลับ
บ้านบ่งบอกถึงการไม่เห็นด้วยจากการรุกของทุนที่เข้ามายึดครองจนลูกร้านชาว
เกาะต้องขายที่ดินเพื่อความสุขสบายของรุ่นตัวเอง
บางทีผู้กำกับอาจสื่อว่าถ้าขายที่ไปหมดแล้วดวงวิญญาณจะกลับมาเยี่ยมลูก
หลานอย่างไรเพราะไม่เพียงแต่เทียนไฟไม่ได้จุด
ที่ดินที่จะเป็นที่วางเทียนเหล่านั้นก็ยังไม่มี
ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่มองไกลถึงปัจจุบันที่เหมือนรู้ว่าวันหนึ่งลูกหลาน
จะขายที่ดินที่พวกเขาสร้างขึ้นมา
การคิดค้นพิธีอาจจะตอกย้ำการหวงแหนพื้นที่เหล่านั้นให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน
เหมือนที่ดินเหล่านั้นก้คือวิญญาณของพวกเขานั่นเอง

ความ
รักในเรื่องถูกตีความว่ารักที่มีความสุขของแต่ละคนไม่ได้หมายความว่าจะไม่
เคยผ่านเรื่องราวที่แสนเศร้า
กลับกันทุกคนต่างผ่านความเจ็บปวด
อากิโอะมีวามรักในวัยแรกเริ่มก็เป็นความรักที่ผิดหวัง
แม้แต่ความรักจากแม่ก็จากเขาไปเช่นกัน
ในขณะที่ซาจิก็มีอดีตความหลังที่แสนเศร้ากับชายหนุ่มที่มีครอบครัวแล้วและ
การเลิกลากันก็ฝากรอยแผลทิ้งไว้
และความรักก็คงมีเส้นทางของมันก่อนไปถึงความสุขเหมือนทั้งคู่ที่ได้พบเจอกัน
ก็เพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ขึ้นอยู่กับว่าช่วงที่ผ่านความเศร้าจะใช้หัวใจนำพาไปหาความสุขได้หรือไม่
เหมือนกับที่ซาจิกล้าที่จะตามหาความรักจากแผ่นไม้ที่เขียนคำปราถนาของอากิ
โอะ
ข่าวดีจากความรักบ่อยครั้งก็มาหลังข่าวร้ายจากความผิดหวังเสมอ
แต่ไม่ใช่เพียงอธิษฐานเท่านั้นแต่ก็ต้องเปิดเส้นทางให้ความรักเดินเข้ามาหา
ด้วยเช่นกัน



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น